Saturday 19 May 2012

ความหมายของคอมพิวเตอร์และระบบคอมพิวเตอร์


ความหมายของคอมพิวเตอร์และระบบคอมพิวเตอร์
       
       คอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานตามชุดคำสั่งอย่างอัตโนมัติ โดยจะทำการคำนวณเปรียบเทียบทางตรรกยะกับข้อมูลและให้ผลลัพธ์ออกมาตามต้องการ ลักษณะที่สำคัญหรือคุณสมบัติเฉพาะที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นที่รู้จัก มีดังนี้
       1.ความเร็ว (Speed)
       เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้ด้วยความเร็วมากตั้งแต่การนำข้อมูลเข้าสู่หน่วยความจำ การคำนวณ การจัดพิมพ์ และการทำงานต่างๆ หน่วยที่ใช้วัดความเร็ว มีดังนี้
       หน่วยความเร็วที่แตกต่างกันนี้ เป็นหน่วยความเร็วของคอมพิวเตอร์ในยุคต่างๆ ซึ่งได้มีการพัฒนาให้เครื่องมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และมีความเร็วที่เหมาะสมกับงานแต่ละชนิด
       2.หน่วยความจำ (Memory)
       คอมพิวเตอร์มีหน่วยความจำซึ่งสามารถเก็บข้อมูล บันทึกข้อมูล (Data) คำสั่งต่างๆ ได้ไม่ว่าข้อมูลและคำสั่งนั้นมีความหมายหรือสลับซับซ้อนเพียงใดก็ตาม เมื่อคำสั่งและข้อมูลถูกส่งเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ จะปฏิบัติงานตามคำสั่งตั้งแต่ต้นจบจบ และยังมีความสามารถเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ที่ทำการเปรียบเทียบแล้วสามารถทำการประมวลผลซ้ำๆ กันหลายรอบได้
       3.ทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic&Automatic)
       คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติ อย่างเช่น เมื่อได้รับคำสั่งในรูปแบบโปรแกรมที่เราป้อนข้อมูลและโปรแกรมเข้าไปในหน่วยความจำ เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำงาน ทุกอย่างเอง  เช่น การจดจำข้อมูล การคำนวณข้อมูล เป็นต้น
       4.การเก็บรักษาข้อมูลหรือโปรแกรม (Retention)
       คอมพิวเตอร์สามารถเก็บและค้นหาไฟล์ข้อมูลและโปรแกรมได้ โดยที่ข้อมูลและโปรแกรมนั้นจะไม่สูญหายหรือเปลี่ยนค่าแต่อย่างใด
       5.ความถูกต้องและความเชื่อถือได้ (Accuracy&Reliability)
       การที่คอมพิวเตอร์จะมีความเที่ยงตรงและถูกต้องนั้นจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ป้อนเข้าไปในเครื่องและโปรแกรมที่ใช้งานแต่อย่างไรก็ตาม เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นก็ยังมีขีดความสามารถที่ทำได้และทำไม่ได้ เพราะว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การทำงานที่ขึ้นอยู่กับมนุษย์เป็นผู้เขียน โปรแกรมหรือคำสั่งเพื่อสั่งให้เครื่องทำงาน คอมพิวเตอร์จะทำงานตามโปรแกรมคำสั่งที่มนุษย์เขียนขึ้นเท่านั้น แต่จะไม่มีความสามารถในการปรับปรุงงานให้ดีขึ้น เพราะคอมพิวเตอร์ไม่มีสมองเหมือนมนุษย์ไม่มีความคิดที่จะพัฒนาระบบงานให้ดีขึ้นในการที่คอมพิวเตอร์จะทำการประมวลผลให้ถูกต้องตรงกับความต้องการของผู้ใช้นั้นก็ต่อเมื่อผู้ใช้ใส่ข้อมูล (Data) ถูกต้อง ผลลัพธ์ (Out put) ที่ได้ก็จะเชื่อถือได้ แต่ถ้าข้อมูลไม่ถูกต้องหรือใช้ประโยชน์ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะไม่ถูกต้อง หรือเชื่อถือไม่ได้เช่นกัน งานที่เหมาะสมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ ควรมีลักษณะดังนี้
              1.งานที่มีปริมาณมากๆ  เช่น สำรวจความคิดเห็น งานทำผลสอบเข้ามหาวิทยาลัย งานที่ต้องใช้กับข้อมูลจำนวนมาก งานเหล่านี้ถ้าใช้แรงงานคนทำอาจต้องใช้เวลานาน
              2.งานที่มีขั้นตอนในการประมวลผลซ้ำๆ กันถ้าใช้คนทำอาจเกิดความเบื่อหน่ายหรือไม่ โอกาสผิดพลาดมักจะเกิดขึ้นได้ง่าย ถ้าใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำจะช่วยลดความผิดพลาดและช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้น
              3.งานที่ยุ่งยากซับซ้อนต้องการความละเอียดและต้องการผลลัพธ์ที่ถูกต้องแม่นยำ ถ้าใช้คนทำอาจเกิดการผิดพลาดได้ง่าย
              4.งานที่ต้องการความรวดเร็ว  เช่น งานเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ ซื้อขายหุ้น งานทำ ผลการสอบ งานทำผลเลือกตั้ง
       ดังนั้นในการพิจารณานำเครื่องคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้นอกจากจะต้องคำนึงถึงลักษณะงานดังกล่าวแล้ว ควรจะต้องพิจารณาในสิ่งอื่นๆ ประกอบด้วย  เช่น
              1.ความคุ้มค่า การใช้งานคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยส่วนประกอบหลายอย่าง  เช่น ตัวเครื่องพร้อมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ซอฟต์แวร์ที่ใช้และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะต้องมีการลงทุน เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่มีราคาแพงและล้าสมัยเร็ว ดังนั้นในการใช้ควรใช้ให้คุ้มค่าก่อนที่เครื่องจะล่าสมัย
              2.กำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนว่าต้องการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ทำอะไร ถ้าสามารถกำหนดความต้องการเป็นรูปธรรมได้ชัดเจนก็จะสามารถพัฒนาระบบงานได้ง่ายและตรงกับความต้องการ

***อ้างอิงข้อมูลจากหนังสือ “ฮาร์ดแวร์และยูทิลิตี้เบื้องต้น”***

No comments:

Post a Comment